ชาญี่ปุ่นมีแบบไหนบ้าง

ชาญี่ปุ่นมีแบบไหนบ้าง 

ชาญี่ปุ่นนั้นแบ่งออกมีหลากหลายประเภท ซึ่งแบ่งตามกระบวนการผลิตและรสชาติที่แตกต่างกัน
รวมไปถึง บางประเภทก็มีส่วนผสมอื่นๆใส่เพิ่มเข้าไป โดยหลักๆที่เราพบเจอกันมากในตลาด ก็จะมี

1. เซนฉะ (Sencha): เป็นชาเขียวญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 80% ของชาที่ผลิตและบริโภคในประเทศ
เซนฉะมีหลากหลายเกรดและคุณภาพ ขึ้นอยู่กับวิธีการปลูก เก็บเกี่ยว และกระบวนการผลิตเป็นชาที่สามารถดื่มได้ทุกวันและเหมาะกับทุกโอกาส 
ไม่ว่าจะเป็นการดื่มในระหว่างมื้ออาหารหรือเป็นเครื่องดื่มเพื่อผ่อนคลาย

     ลักษณะเฉพาะของชาเซนฉะ:เซนฉะมาจากใบชาที่ได้รับแสงแดดเต็มที่ และจะถูกเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นช่วงที่ใบชาอ่อนและมีคุณภาพดีที่สุด 
หลังจากการเก็บเกี่ยว ใบชาจะถูกนึ่งเพื่อหยุดกระบวนการหมักและรักษาสีเขียวสด จากนั้นจะถูกม้วนและทำให้แห้ง
     รสชาติและกลิ่น: เซนฉะมีรสชาติที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับคุณภาพและแหล่งที่ปลูกมาของใบชา
แต่โดยทั่วไปจะมีรสชาติสดชื่นและกลมกล่อม มีความหวานและขมฝาดเล็กน้อยที่สมดุลกัน 

2. เกียวคุโรฉะ" (Gyokurocha) หนึ่งในชาเขียวญี่ปุ่นที่มีคุณภาพสูงและได้รับความนิยมมากชนิดหนึ่งในญี่ปุ่น 
"เกียวคุโร" แปลว่า "น้ำค้างหยก" ซึ่งสะท้อนถึงความใสและสีเขียวสดของน้ำชา
ชาเกียวคุโระมักจะเป็นที่นิยมในหมู่คนรักชา และถูกจัดให้เป็นหนึ่งในชาที่มีคุณค่าทางรสชาติและการสัมผัสที่หรูหรา

     ลักษณะเฉพาะของชาเกียวคุโรฉะ: ใบชาจะถูกบังด้วยร่มเงาประมาณ 20 วันก่อนการเก็บ
เพื่อลดการสังเคราะห์แสง ทำให้ใบชามีกรดอะมิโนมากขึ้น 
     รสชาติและกลิ่น: เกียวคุโระมีรสชาติหวานอ่อนๆ พร้อมกับรสชาติอูมามิที่เข้มข้น มีความขมและฝาดน้อยกว่า
จึงให้รสชาตินุ่มนวลและมีกลิ่นหอมของธรรมชาติที่ซับซ้อน

3.โฮจิฉะ (Hojicha): เป็นชาเขียวที่ผ่านกระบวนการคั่ว ทำให้มีรสชาติและกลิ่นที่แตกต่างจากชาเขียวทั่วไป
เป็นชาที่นิยมดื่มกันทั่วญี่ปุ่น โดยเฉพาะหลังอาหาร หรือเป็นเครื่องดื่มที่ผ่อนคลายสำหรับทุกช่วงเวลา

     ลักษณะเฉพาะของชาโฮจิฉะ:โฮจิฉะทำจากใบชาที่ผ่านการคั่วในอุณหภูมิสูงทำให้ใบชามีสีแดงน้ำตาลหรือสีเข้ม
ซึ่งมีกลิ่นคล้ายกับคาราเมลหรือกลิ่นถั่วคั่ว  และทำให้มีการลดระดับของคาเฟอีนลงเมื่อเทียบกับชาเขียวชนิดอื่น ๆ
     รสชาติและกลิ่น: รสชาติจะไม่ขมเหมือนชาเขียวชนิดอื่นๆ และมีความหวานและกลมกล่อมที่เป็นธรรมชาติ 

4. เกมไมฉะ (Genmaicha): เป็นชาที่ ผสมผสานระหว่างชาเขียวกับข้าวกล้องคั่ว เป็นชาที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น 
เนื่องจากมีรสชาติที่ไม่ซับซ้อนและเป็นที่รู้จักกันดี เหมาะสำหรับการดื่มในชีวิตประจำวันและมักจะเสิร์ฟพร้อมอาหาร หรือเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยให้ผ่อนคลาย

     ลักษณะเฉพาะของชาเกนไมฉะ: ประกอบด้วยชาเขียว ซึ่งมักจะเป็นเซนฉะ (Sencha) ผสมกับข้าวกล้องคั่ว (Genmai) 
ข้าวกล้องคั่วนี้จะมีทั้งเมล็ดที่สุกแตกคล้ายๆเป็นป็อปคอร์นเม็ดเล็กๆ ทำให้ชาเกนไมฉะมีกลิ่นหอมจากข้าวที่ผ่านการนำไปคั่วมีกลิ่นไหม้เล็กน้อยที่เป็นเอกลักษณ์
     รสชาติและกลิ่น: รสชาติจะมีความหวานอ่อนๆ และขมเล็กน้อย ซึ่งข้าวกล้องคั่วจะช่วยลดความขมของชาเขียวลง
ทำให้เกนไมฉะเป็นชาที่ดื่มง่าย ละมีคาเฟอีนที่น้อยกว่า เพราะมีส่วนผสมของข้าว

ชาเขียวแบบผง

5. มัทฉะ (Matcha): ทำจากใบชาเทนฉะ ซึ่งเป็นชาเขียวที่ปลูกในร่ม คล้ายกับเกียวคุโรฉะ
ใบชาจะถูกบังด้วยร่มเงาก่อนเก็บเกี่ยว ทำให้มีกรดอะมิโนและคลอโรฟิลล์สูง ใบชาจะถูกนึ่ง แล้วนำไปตากแห้ง และบดให้เป็นผงละเอียด
คุณภาพ: เป็นชาที่มีคุณภาพสูง มีรสชาติอูมามิหวาน และมีสีเขียวสด เนื่องจากผ่านการบดด้วยหินละเอียดมาก ทำให้มีเนื้อเนียนและละลายในน้ำได้ดี
การใช้งาน: มัทฉะถูกใช้ในพิธีชงชาแบบดั้งเดิ และในขนมหวาน หรือเครื่องดื่ม เช่น มัทฉะลาเต้ มัทฉะมีรสชาติเข้มข้น

6. ฟุนมัทฉะ (Funmatsu-cha): ทำจากใบชาที่มีคุณภาพต่ำกว่า ใบชาจะถูกบดให้เป็นผงเหมือนกัน แต่ใช้วิธีการบดแบบอุตสาหกรรม 
คุณภาพ: ฟุนมัทฉะมีรสชาติที่เข้มและขมกว่า มีสีเขียวที่ไม่สดเท่ามัทฉะ และเนื้อของผงชาอาจไม่เนียนและละเอียดเท่า
การใช้งาน: ฟุนมัทฉะมักใช้ในเครื่องดื่มหรือขนมหวานที่ไม่ต้องการความละเอียดสูง เช่น ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มขวด หรือในผลิตภัณฑ์อาหารอื่น ๆ ที่ไม่เน้นรสชาติของมัทฉะมากนัก

ชาแบบอื่นๆ 

7. อู่หลงฉะ (Oolong Cha) เป็นชาประเภทหนึ่งที่อยู่ระหว่างชาเขียวและชาดำมีต้นกำเนิดจากประเทศจีน
อู่หลงฉะเป็นที่รู้จักในด้านการส่งเสริมการย่อยอาหาร ช่วยในการลดน้ำหนัก และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพ
มีคาเฟอีนในระดับปานกลาง จึงสามารถดื่มได้ในระหว่างวันเพื่อความสดชื่นโดยไม่ทำให้ตื่นตัวมากเกินไป
เป็นชาที่สามารถเพลิดเพลินได้ในหลายโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการดื่มเพื่อผ่อนคลายหรือเพื่อการชงชาอย่างจริงจัง

     ลักษณะเฉพาะของอู่หลงฉะ: ใบชาจะผ่านกระบวนการหมักบางส่วนก่อนที่จะหยุดการหมักด้วยการคั่วหรือการนึ่ง การหมักจะถูกควบคุมเพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นที่เฉพาะตัว
     รสชาติและกลิ่น: อู่หลงฉะมีรสชาติที่ซับซ้อนและหลากหลาย อาจมีทั้งรสชาติหวาน กลิ่นดอกไม้ ผลไม้ หรือกลิ่นถั่ว ขึ้นอยู่กับวิธีการผลิต 

8. มุกิฉะ (Mugicha) ชาที่ทำจากข้าวบาร์เลย์คั่ว สามารถชงได้ทั้งร้อนและเย็น 
เป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีคาเฟอีน จึงเหมาะสำหรับทุกวัย รวมถึงเด็กและผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงคาเฟอีน
มักจะชงดื่มแบบเย็น เหมาะสำหรับการดับกระหายและช่วยทำให้ร่างกายเย็นลง ช่วยในการย่อยอาหารและอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

     ลักษณะเฉพาะของมุกิฉะ: ทำจากเมล็ดข้าวบาร์เลย์ที่ผ่านการคั่วอย่างเข้มข้นทำให้มุกิฉะมีกลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ 
     รสชาติและกลิ่น: มีรสชาติที่เข้มข้นแต่ไม่ขมคล้ายกับกลิ่นถั่วคั่วข้าวคั่วหรือกลิ่นขนมปังปิ้ง มีรสชาติที่สดชื่นและไม่หวาน

นอกจากที่แนะนำไปข้างต้น จริงๆแล้วชาของประเทศญี่ปุ่นยังมีประเภทย่อยๆมากกว่านี้อีกนะคะ
นี่เป็นแค่เพียง ประเภทหลักๆที่เราเห็นกันได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน และตามท้องตลาดเท่านั้นค่ะ

สำหรับคุรลูกค้าที่สนใจ Honmono Nippon ของเรา ก็มีชานำเข้าจากญี่ปุ่น หลากหลายแบบ ให้คุณได้เลือกตามที่ชอบได้เลยค่ะ
นอกจากชาคุณภาพดีจากญี่ปุ่นแล้ว ก็ยังมี นม จาก คุมาโมโตะ และ ฮอคไกโด รวมไปถึง น้ำแร่ก็มีจำหน่ายด้วยเช่นกันค่ะ
ไปดูเลยที่นี่ :  หมวดสินค้านมและเครื่องดื่ม